ช่วงนี้เข้ามาสู่ฤดูฝนอีกครั้ง ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคม เนื่องจากความชื้นในอากาศและปริมาณน้ำฝนมากกว่าเดือนอื่นๆ เป็นสาเหตุของโรคที่เกิดจากความชื้นและน้ำขังได้ โดยเฉพาะโรคติดต่อที่เกิดจากน้ำโดยตรง

ช่วงนี้ก็เข้ามาสู่ฤดูฝนอีกครั้ง ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคม เนื่องจากความชื้นในอากาศและปริมาณน้ำฝนมากกว่าเดือนอื่นๆ เป็นสาเหตุของโรคที่เกิดจากความชื้นและน้ำขังได้ โดยเฉพาะโรคติดต่อที่เกิดจากน้ำโดยตรง หรือเกิดจากพาหะนำโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ

 

โรคที่พบบ่อยในช่วงฤดูฝน สามารถแบ่งได้ 5 กลุ่มใหญ่รวมทั้งหมด 15 โรค ได้แก่

1. กลุ่มโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อย 5 โรค ได้แก่ โรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคคออักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ และโรคปอดอักเสบ
2. กลุ่มโรคติดต่อที่เกิดจากยุงเป็นพาหะนำโรค ที่สำคัญ 3 โรค ได้แก่ ไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ เจ อี (Japanese Encephalitis) และโรคมาลาเรีย
3. กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง ได้แก่ โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือที่รู้จักกันในชื่อโรคไข้ฉี่หนูนั่นเอง
4. กลุ่มโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ที่พบบ่อยมี 5 โรค ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โรคบิด โรคไทฟอยด์ โรคอาหารเป็นพิษ และโรคตับอักเสบ
5. กลุ่มโรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง

หนาวแล้วมีโรคอะไรที่ต้องระวังกันบ้าง | Solution One

โรคไข้เลือดออก อันตรายแต่ป้องกันได้ – โรงพยาบาลวาริชภูมิ

 

นอกจากกลุ่ม 5 โรคหลักดังกล่าวแล้ว ยังอาจพบโรคอื่นในฤดูฝนได้อีก เช่น โรคน้ำกัดเท้าจากเชื้อรา หรือ การถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง หรือแม้กระทั่งโรคอาหารเป็นพิษจากรับประทานเห็ดพิษ

เห็นได้ว่ามีโรคหลากหลายที่พบได้บ่อยใน ช่วงฤดูฝน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคที่สามารถป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่อที่เกิดจาก ยุง ดังนั้นโรคพบบ่อยช่วงฤดูฝนตอนที่ 1 นี้ ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพจึงขอกล่าวถึงกลุ่มโรคติดต่อที่เกิดจากยุงเป็นพาหะ นำโรคที่พบบ่อยได้แก่ โรคไข้เลือดออกเดงกี่ โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี และโรคมาเลเรีย เพื่อให้ทุกท่านสามารถรับมือป้องกันโรคกลุ่มนี้กันครับ

 

ขอบคุณแหล่งที่มา : โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก